สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับโรคพยาธิ |
โรคพยาธิตัวจี๊ด |
โรคพยาธิใบไม้ตับ |
โรคพยาธิหอยโข่ง |
โรคเท้าช้าง |
โรคพยาธิใบไม้ปอด
|
|
โรคพยาธิใบไม้ตับในประเทศไทย เกิดจาก พยาธิใบไม้ตับ ชนิด Opisthorchis viverrini ซึ่งมีรูปร่างแบนคล้ายใบไม้ ส่วนหัวและท้ายเรียวมน ขนาด ยาว 7-12 มม. กว้าง 2-3 มม. สีแดงเรื่อคล้ายสีโลหิตจางๆ พบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ส่วนภาคอื่นๆ พบน้อย โรคนี้เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งท่อน้ำดีในคนไทย
|
|
การติดโรค |
โรคนี้เกิดจากินอาหารประเภทน้ำจืดชนิดมีเกล็ดที่มีตัวอ่อ่นของพยาธิอยู่หาก ปรุงดิบ
หรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ก้อยปลา ปลาหมกไฟ ปลาร้า ฯลฯ
ปลาในประเทศไทยบที่พบว่ามีพยาธิตัวอ่อน เช่น ปลาซิว
ปลาสร้อย ปลาขาว ปลาตะเพียน ฯลฯ |
|
|
|
วงจรชีวิต |
พยาธิใบไม้ตับอาศัยอยู่ในท่อน้ำดีของตับทั้งของคนและสัตว์รังโรค
เมื่อพยาธิออกไข่ ไข่จะออกมาในลำใส้ และปนออกมากับอุจจาระลงแหล่งน้ำ เมื่อหอยไซกินไข่นี้เข้าไป พยาธิจะเจริญเป็นตัวอ่อนอยู่ในหอย
ตัวอ่อนระยะต่อมาจะออกจากหอยไปเจริญต่อในปลาเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ เมื่อคนกินปลาที่ปรุงไม่สุก
ตัวอ่อนนี้จะเจริญเป็นพยาธิตัวเต็มวัยในท่อน้ำดีของตับ |
|
|
|
ระยะเวลาตั้งแต่คนกินตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิเข้าไปจนเจริญเป็นตัวเต็มวัย และตรวจพบไข่ในอุจจาระใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ |
|
อาการ |
ระยะแรกๆมักจะไม่มีอาการ
เมื่อมีพยาธิสะสมมากๆเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการ เช่น ท้องอืด แน่นท้อง
เจ็บบริเวณชายโครงขวา ออกร้อนบริเวณหน้าท้อง ถ้าปล่อยไว้นานๆ
จะมีอาการอักเสบของท่อน้ำดี ตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต มีไข้ บางรายอาจกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ และอาจถึงตายได้ |
|
|
|
การวินิจฉัย |
ผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคพยาธินี้
ควรได้รับการตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ |
|
|
|
การรักษา |
พบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องหลังจากถ่ายพยาธิแล้วต้องไม่กลับไปกินปลาดิบอีก เพื่อป้องกันการติดเชื้อพยาธิใหม่ |
|
กินปลาดิบ กินปลาก้อย อร่อยปาก
|
ต้องทุกข์ยาก ตอนป่วย ด้วยโรคตับ
|
ถ้าไม่เลิก ชีพนี้ อาจลาลับ
|
จงหวนกลับ กินปลาสุก ทุกข์จะคลาย
|
|