หน้าแรก

โรคเห็บ

โรคเหา

โรคหิด

โรคไข้สมองอักเสบเจอี

โรคฉี่หนู

โรคปอดบวม

โรคพิษสุนัขบ้า

โรคไข้เลือดออก

โรคไข้ไรอ่อน

โรคไข้ดิน

โรคชิคุนกุนยา

โรคไข้หวัดใหญ่

โรคพยาธิปากขอ

โรควัณโรค

โรคพยาธิหอยโข่ง

โรคพยาธิเข็มหมุด

โรคพยาธิใบไม้ตับ

โรคหนอนพยาธ

โรคพยาธิตัวจี๊ด

โรคพยาธิตัวตืด

โรคพยาธิตัวบวม

โรคมาลาเรีย

โรคหน่อไม้ปี๊บ

โรคอะมีบากินสมอง

โรคอุจจาระร่วง

 

     คุณศักดิ์มาตรวจที่โรงพยาบาล เพราะว่ามีไข้มานานถึง 10 วันแล้ว
คุณศุกดิ์ซื้อยาฆ่าเชื้อกินเองและหาหมอแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น จึงมาตรวจเพราะ
กลัวเป็นมาลาเรีย เนื่องจากคุณศักดิ์ไปเที่ยวและค้างคืนบนดอยแถว
เชียงใหม่ เมื่อครึ่งเดือนก่อน

 

     
 
  หมอ : หมอตรวจเลือดแล้ว ไม่พบเชื้อมาลาเรีย แต่พบว่าเม็ดเลือดขาว สูงผิดปกติ ซึ่งบ่งว่าคุณน่าจะติดเชื้ออะไรบางอย่างอยู่ครับ  
     
  คุณศักดิ์ : ถ้าไม่ใช่มาลาเรีย แล้วผมเป็นอะไรครับ  
     
  หมอ : มีโรคติดเชื้อหลายโรคที่ให้มีไข้นานเกิน 1 อาทิตย์ เช่น ไข้รากสาดน้อยหรือไทฟอยด์ ไข้รากสาดใหญ่ วัณโรค ไข้ดิน แต่คนที่เพิ่งไปเที่ยวค้างคืนในป่า มีโอกาสเป็นไข้รากสาดใหญ่ได้ ว่าแต่คุณมีแผลที่ไหนบ้างหรือเปล่าครับ  
     
  คุณศักดิ์ : เอ..ผมมีแผลตรงเอว แรกๆเป็นตุ่มแดงๆ อยู่ 2-3 วัน แล้วแตก เป็นแผล พอแผลแห้งก็เป็นสะเก็ดดำๆ แต่มันไม่เจ็บและตอนนี้ ก็ใกล้หายแล้ว มันจะเกี่ยวกันหรือครับ

 
     
  หมอ : แผลที่เห็นนี่น่าจะเกิดจากการถูกไรอ่อนกัดนะครับ ถ้าเป็นจริงคุณ ก็น่าจะเป็นโรคไข้ไรอ่อนหรือที่ภาษาอังกฤษเรียก scrub typhus ครับ  
     
  คุณศักดิ์ : ไม่เคยได้ยินชื่อโรคนี้เลย โรคนี้เป็นอย่างไรหรือครับ  
     
  หมอ : โรคนี้เป็นโรคหนึ่งในกลุ่มไข้รากสาดใหญ่ เกิดจากเชื้อโรคชนิด หนึ่งที่ชื่อ โอเรียนเชีย ซูซูกามูชิ (Orientia tsutsugamushi) พบได้ในประเทศแถบเอเชีย ตั้งแต่ญี่ปุ่นตอนใต้ลงมาจนถึง ออสเตรเลีย และไปทางตะวันตก จนถึงปากีสถานและอัฟกานิสถาน ในประเทศไทยพบได้ทุกภาคแต่พบมากแถวภาคเหนือ  
 
 
  เชื้อนี้ปกติพบในสัตว์เลือดอุ่น มีไรอ่อนเป็นตัวนำโรค โดยไรอ่อนจะอาศัย ตามพุ่มไม้ ทุ่งหญ้าในป่าละเมาะ เมื่อมีสัตว์ผ่านเข้าไปในบริเวณนั้น จะถูก ไรอ่อนเกาะและดูดเลือด และหากสัตว์เล่านั้นมีเชื้อโรคนี้อยู่ ไรอ่อนก็จะติด โรคนี้ และถ่ายทอดเชื้อนี้ไปสู่รุ่นลูกของมัน เมื่อไรอ่อนรุ่นลูกที่มีเชื้อนี้กัดสัตว์อื่น ก็จะทำให้สัตว์เป็นโรคได้ คนมักเป็นโรคจากการเดินทางหรือพักแรมในบริเวณ ที่มีไรอ่อนอยู่ ไรอ่อนจะไต่ตามเสื้อผ้า เช่น ขากางเกง และมักไปหยุดดูดเลือด แถวเอวเพราะติดขอบกางเกง ตรงบริเวณที่โดนไรอ่อนกัดจะเป็นแผลคล้ายถูก บุหรี่จี้ ต่อมาต่อมน้ำเหลืองแถวที่ถูกกัดจะบวมเจ็บ และต่อมาก็มีไข้  
   
 
  พยาบาล : ทำไมไรอ่อนตัวที่กัดสัตว์ที่เป็นโรค ไม่แพร่เชื้อให้สัตว์อื่น โดยตรงละคะ  
     
  หมอ : อ๋อ ตามธรรมชาติไรอ่อนจะดูดเลือดครั้งเดียวจนอิ่ม แล้วจะไม่ค่อย ดูดเลือดอีก เมื่อมันโตขึ้น ก็จะกินอาหารอย่างอื่นที่ไม่ใช่เลือด  
     
  คุณศักดิ์ : คนที่เป็นโรคนี้มีแผลทุกคนหรือเปล่าครับ แล้วโรคนี้อันตราย ไหมครับ  
     
  หมอ : แผลแบบนี้ พบในคนไข้บางคนเท่านั้น คนไข้ส่วนใหญ่มีแต่ไข้
หรือเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน บางคนอาจหายเองได้ แม้จะไม่ รักษา แต่บางคนถ้าไม่รักษาหรือให้ยาไม่ตรงกับโรค อาจมีโรค แทรกซ้อน เช่น ไอจากหลอดลมอักเสบหรือปอดบวม สมองอักเสบ ทำให้ชักหมดสติ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ทำให้เหนื่อยง่าย บางคน อาจถึงตายได้
 
     
  คุณศักดิ์ : แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคนี้ครับ  
     
  หมอ : ก็จากประวัติการเดินทางไปในถิ่นที่มีโรคนี้ชุกชุม แล้วมีไข้และ อื่นๆ ตามที่เล่าให้ฟังเมื่อครู่นี้ โดยไม่มีสาเหตุอื่นๆ นอกจากนี้ หมอสามารถตรวจเลือดเพื่อยืนยันว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ด้วย  
     
  คุณศักดิ์ : คนที่ไม่ไปป่า จะเป็นโรคนี้ได้ไหมครับ  
     
  หมอ : มีโอกาสน้อยครับ แต่โรคนี้ก็อาจพบในชาวนาชาวสวนที่มี ภูมิประเทศที่เหมาะให้ไรอ่อนอาศัยอยู่ นอกจากนี้มีอีกโรคหนึ่งชื่อว่า murine typhus นำโรคโดย หมัดหนู ทำให้เกิดอาการคล้าย ไข้ไรอ่อนมาก แต่มักจะรุนแรงน้อยกว่า พบได้ตามชนบทที่มีหนู ชุกชุม