คณะผู้บริหาร
      วิสัยทัศน์/พันธกิจ/แผนภูมิยุทธศาสตร์ 
       วัฒนธรรมองค์กร
       โครงสร้างโรงพยาบาล
       ประวัติโรงพยาบาล
       แผนที่ตั้ง
       ฝ่ายการพยาบาล
       งานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
     ( HA )
       ข่าวประชาสัมพันธ์
       กิจกรรม
       ความเชี่ยวชาญพิเศษ
       ตารางการออกตรวจ
       คลินิกพิเศษ
       คลินิกไข้เฉียบพลัน
       เวชศาสตร์ท่องเที่ยว
       เวชศาสตร์ทางเลือก
       การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
       การบริการห้องพักผู้ป่วย
       หลักสูตรด้านเวชศาสตร์เขตร้อน
       หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล
       มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์
     เขตร้อน
       จดหมายข่าว จากใจทีมบริหาร
       จดหมายข่าว HA
       ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
       งานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล
       ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
rajanagarindrabuilding

  


สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับโรคพยาธิ โรคพยาธิตัวจี๊ด โรคพยาธิใบไม้ตับ โรคพยาธิหอยโข่ง โรคเท้าช้าง โรคพยาธิใบไม้ปอด
 

โรคพยาธิหอยโข่ง

      โรคพยาธิหอยโข่ง เป็นโรคที่เกิดจากพยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า แองจิโอสตรองจิลัส แคนโตเนนซิส (Angiostrongylus cantonensis) ซึ่งตามปกติเป็นพยาธิที่อาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู

 

รูปร่างลักษณะ

      พยาธิตัวเต็มวัยมีรูปร่างเรียว ยาวประมาณ 2-3 ซม ตัวเมียจะมีลายเป็นเกลียวขาวสลับดำอยู่ในตัว ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าและที่หางจะมีแผ่นบางๆเล็กๆ แผ่ออกมา

 
 

รูปพยาธิ Angiostrongylus cantonensis ตัวผู้ ขนาด 15-19 * 0.26 มม. รูปร่างยาวเรียวปลายหางมี bursa ขนาดเล็ก

 
 

รูป พยาธิ A. cantonensis แสดงส่วน bursa ซึ่งมีขนาดเล็กแผ่ออกทางด้านท้อง มีอวัยวะเพศ (spicule) 2 อัน ขนาดไม่เท่ากัน

 
 

รูปพยาธิ A. cantonensis ตัวเมียขนาด 21-25*0.33 มม. ปลายหางของพยาธิ ทู่ มีลักษณะพิเศษที่เห็นได้ชัดคือสีแดงสลับสีขาวพันเป็น เกลียวคล้ายเครื่องหมาย ของร้านตัดผม สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากลำไส้

 
 

รูปพยาธิ A.cantonensis ตัวอ่อนระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะติดต่ออยู่ในกล่ามเน้อของหอย และตับของตะกวด

 

แหล่งระบาดของโรคพยาธิ

      โรคพยาธิหอยโข่งพบได้ทุกภาคในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในกลุ่มประชาชนที่ชอบรับประทานหอยน้ำจืดดิบๆ สุกๆ

 

วงจรชีวิตของพยาธิ

         พยาธิตัวเต็มวัยทั้งสองเพศจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู พยาธิตัวเมียจะออกไข่ในหลอดเลือดแดงและฟักตัวเป็นตัวอ่อนระยะที่ 1 ปนออกมากับมูลหนู ตัวอ่อนระยะนี้ไชเข้าหอยทากหรือหอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง (หอยปัง) หอยขม หอยเชอรี่ แล้วเจริญเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ เมื่อหนูกินหอย พยาธิจากหอยจะเข้าไปในสมองหนู เจริญต่อไปเป็นพยาธิตัวแก่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู และออกไข่ซึ่งจะพัฒนาต่อไปตามวงจรชีวิต หากคนรับประทานหอยดิบๆ สุกๆ ซึ่งมรพยาธิระยะติดต่อ พยาธิจะเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง หรือตา  คลิกเพื่อดูรูปวงจรชีวิตที่นี่ครับ

 

พยาธิติดต่อได้อย่างไร

       ติดต่อโดยการรับประทานอาหารดิบๆ สุกๆ ที่ทำมาจากสัตว์พาหะที่มีพยาธิระยะติดต่อ เช่น หอยน้ำจืด หอยบก หอยทาก กุ้งและปูน้ำจืด หรือตะกวด นอกจากนี้พยาธิอาจปนเปื้อนมากับน้ำดื่ม ผักและผลไม้สด คลิกเพื่อดูรูปวงจรชีวิตพยาธิหอยโข่งครับ

 
 

รูปตะกวด (Varanus bengalensis) เป็น paratenic host ของ A.cantonensis ที่ตับของตะกวดจะพบพยาธิระยะติดต่อ เคยมีรายงานว่าคนกินตับตะกวดแล้วเกิดโรค เยื่อหุ้มสมองอักเสบเนื่องจากพยาธิตัวนี้

 

อาการ

        หลังจากรับประทานอาหารที่มีพยาธิระยะติดต่อเข้าไป 1-4 สัปดาห์ จะมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ในรายที่มีอาการรุนแรงจะปวดศีรษะมาก คอแข็ง หลังแข็ง ชัก อาจเป็นอัมพาต ซึม หมดสติ หรือตายได้ ถ้าพยาธิไชเข้าตา ตาอาจจะอักเสบ มัว และบอดได้

 

การวินิจฉัย

  • วินิจฉัยจากอาการทางคลินิกข้างต้น จากประวัติการรับประทานอาหารดิบๆ สุกๆ เช่น หอยพาหะ กุ้ง และสัตว์พาหะอื่นๆ
  • ตรวจพบพยาธิในน้ำไขสันหลังหรือจากตา
  • ตรวจพบเม็ดเลือดขาวชนิดอิโอซิโนฟิลจำนวนมากในน้ำไขสันหลัง
  • ตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันเฉพาะต่อพยาธิโดยวิธีอิมมิวโนวินิจฉัย

การป้องกัน

  • ไม่รับประทานอาหารดิบๆ สุกๆ พืชผักผลไม้ หรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด
  • ควบคุมหนูและหอยพาหะ
  • ให้สุขศึกษาถึงการระบาด การติดเชื้อและการป้องกัน

การรักษา

        ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง


Share