|
|
โรคพยาธิหอยโข่ง |
โรคพยาธิหอยโข่ง เป็นโรคที่เกิดจากพยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า แองจิโอสตรองจิลัส แคนโตเนนซิส (Angiostrongylus cantonensis) ซึ่งตามปกติเป็นพยาธิที่อาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู |
|
รูปร่างลักษณะ |
พยาธิตัวเต็มวัยมีรูปร่างเรียว ยาวประมาณ 2-3 ซม ตัวเมียจะมีลายเป็นเกลียวขาวสลับดำอยู่ในตัว ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าและที่หางจะมีแผ่นบางๆเล็กๆ แผ่ออกมา |
|
|
|
รูปพยาธิ Angiostrongylus cantonensis ตัวผู้ ขนาด 15-19 * 0.26 มม. รูปร่างยาวเรียวปลายหางมี bursa ขนาดเล็ก |
|
|
|
|
รูป พยาธิ A. cantonensis แสดงส่วน bursa ซึ่งมีขนาดเล็กแผ่ออกทางด้านท้อง
มีอวัยวะเพศ (spicule) 2 อัน ขนาดไม่เท่ากัน |
|
|
|
|
รูปพยาธิ A. cantonensis ตัวเมียขนาด 21-25*0.33 มม. ปลายหางของพยาธิ
ทู่ มีลักษณะพิเศษที่เห็นได้ชัดคือสีแดงสลับสีขาวพันเป็น เกลียวคล้ายเครื่องหมาย
ของร้านตัดผม สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากลำไส้ |
|
|
|
|
รูปพยาธิ A.cantonensis ตัวอ่อนระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะติดต่ออยู่ในกล่ามเน้อของหอย
และตับของตะกวด |
|
|
แหล่งระบาดของโรคพยาธิ |
โรคพยาธิหอยโข่งพบได้ทุกภาคในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในกลุ่มประชาชนที่ชอบรับประทานหอยน้ำจืดดิบๆ สุกๆ |
|
วงจรชีวิตของพยาธิ |
พยาธิตัวเต็มวัยทั้งสองเพศจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู พยาธิตัวเมียจะออกไข่ในหลอดเลือดแดงและฟักตัวเป็นตัวอ่อนระยะที่ 1 ปนออกมากับมูลหนู ตัวอ่อนระยะนี้ไชเข้าหอยทากหรือหอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง (หอยปัง) หอยขม หอยเชอรี่ แล้วเจริญเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ เมื่อหนูกินหอย พยาธิจากหอยจะเข้าไปในสมองหนู เจริญต่อไปเป็นพยาธิตัวแก่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู และออกไข่ซึ่งจะพัฒนาต่อไปตามวงจรชีวิต หากคนรับประทานหอยดิบๆ สุกๆ ซึ่งมรพยาธิระยะติดต่อ พยาธิจะเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง หรือตา คลิกเพื่อดูรูปวงจรชีวิตที่นี่ครับ |
|
พยาธิติดต่อได้อย่างไร |
ติดต่อโดยการรับประทานอาหารดิบๆ สุกๆ ที่ทำมาจากสัตว์พาหะที่มีพยาธิระยะติดต่อ เช่น หอยน้ำจืด หอยบก หอยทาก กุ้งและปูน้ำจืด หรือตะกวด นอกจากนี้พยาธิอาจปนเปื้อนมากับน้ำดื่ม ผักและผลไม้สด คลิกเพื่อดูรูปวงจรชีวิตพยาธิหอยโข่งครับ |
|
|
|
รูปตะกวด (Varanus bengalensis) เป็น paratenic host ของ A.cantonensis
ที่ตับของตะกวดจะพบพยาธิระยะติดต่อ เคยมีรายงานว่าคนกินตับตะกวดแล้วเกิดโรค
เยื่อหุ้มสมองอักเสบเนื่องจากพยาธิตัวนี้ |
|
|
อาการ |
หลังจากรับประทานอาหารที่มีพยาธิระยะติดต่อเข้าไป 1-4 สัปดาห์ จะมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ในรายที่มีอาการรุนแรงจะปวดศีรษะมาก คอแข็ง หลังแข็ง ชัก อาจเป็นอัมพาต ซึม หมดสติ หรือตายได้ ถ้าพยาธิไชเข้าตา ตาอาจจะอักเสบ มัว และบอดได้ |
|
การวินิจฉัย |
- วินิจฉัยจากอาการทางคลินิกข้างต้น จากประวัติการรับประทานอาหารดิบๆ สุกๆ เช่น หอยพาหะ กุ้ง และสัตว์พาหะอื่นๆ
- ตรวจพบพยาธิในน้ำไขสันหลังหรือจากตา
- ตรวจพบเม็ดเลือดขาวชนิดอิโอซิโนฟิลจำนวนมากในน้ำไขสันหลัง
- ตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันเฉพาะต่อพยาธิโดยวิธีอิมมิวโนวินิจฉัย
|
การป้องกัน |
- ไม่รับประทานอาหารดิบๆ สุกๆ พืชผักผลไม้ หรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด
- ควบคุมหนูและหอยพาหะ
- ให้สุขศึกษาถึงการระบาด การติดเชื้อและการป้องกัน
|
การรักษา |
ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง |
|