
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อพยาธิโปรโตซัวและปรสิตหนอนพยาธิในลำไส้ รุ่นที่ 1 วันที่ 26 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 และ รุ่นที่ 2 วันที่ 5 – 7 มีนาคม 2568
January 17, 2025
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อพยาธิโปรโตซัวและปรสิตหนอนพยาธิในลำไส้ รุ่นที่ 1 วันที่ 26 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 และ รุ่นที่ 2 วันที่ 5 – 7 มีนาคม 2568
January 17, 2025โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจวินิจฉัย เชื้อมาลาเรียทางห้องปฏิบัติการ” วันที่ 17 – 18 กรกฎาคม 2568
ณ ห้องปฏิบัติการประยงค์ ระดมยศ ชั้น 3 อาคารจำลอง หะริณสุต คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล


หลักการและเหตุผล
มาลาเรียหรือไข้จับสั่น เป็นโรคร้ายที่ทำลายทั้งชีวิต และส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจของมนุษย์รวมทั้งเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยมาช้านานหลายศตวรรษ องค์การอนามัยโลกได้พยายามควบคุมกวาดล้างไข้มาลาเรียมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 แม้ว่าขณะนี้ไข้มาลาเรียหายไปจากหลายประเทศในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี แต่ก็ยังมีมากในเขตร้อน ปีหนึ่งๆ คนเป็นโรคนี้ประมาณ 300 ล้านคน เสียชีวิตประมาณ 1-2 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเด็กในทวีปแอฟริกา นับว่ามาลาเรียทำลายชีวิตคนมากกว่าโรคใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับในประเทศไทย มาลาเรียเป็นปัญหาสาธารณสุขมาช้านาน รัฐบาลได้พยายามควบคุมกวาดล้างมาลาเรียมาตั้งแต่องค์การอนามัยโลกแนะนำ โดยการกำจัดยุงก้นปล่องอันเป็นพาหะของโรค และรักษาให้ยาฆ่าเชื้อมาลาเรียแก่ผู้เป็นโรค ไข้มาลาเรียได้ลดลงแต่ก็ยังไม่หมด ยังคงมีมากบริเวณชายแดนด้านตะวันออกติดกับกัมพูชา และชายแดนด้านตะวันตกติดกับพม่า ในป่าเกือบทั่วประเทศไทยก็ยังมีไข้มาลาเรียอยู่ จังหวัดที่ยังมีไข้มาลาเรียมากได้แก่ ตราด ตาก จันทบุรี กาญจนบุรี ยะลา อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน ปราจีนบุรี เป็นต้น แม้ว่ามาลาเรียเป็นโรคที่รักษาได้ผู้ป่วยจะไม่เสียชีวิต แต่มาลาเรียในประเทศไทยรักษายากกว่าที่อื่น ๆ เพราะเชื้อมาลาเรียชนิดพลาสโมเดียม ฟัลซิพารัมดื้อต่อยาต้านไข้มาลาเรียเกือบทุกชนิด ดังนั้นหากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องรวดเร็ว จะทำให้การรักษาได้ผลดี ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำงานได้อย่างเดิมโดยเร็วเป็นผลดีทั้งทางสุขภาพและเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ยังมีการพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อลิชมาเนีย ซึ่งถือว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย ดังนั้นความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเชื้อลิชมาเนีย วิธีการตรวจวินิจฉัย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาผู้ป่วยด้วยเช่นกัน ภาควิชาพยาธิโปรโตซัว จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรียและลิชมาเนียในห้องปฏิบัติการว่ามีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ป่วย จึงได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมแก่บุคลากรทางการแพทย์/สาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรียและรายงานผลได้อย่างถูกต้องแม่นยำและเป็นไปตามหลักสากล ตลอดจนสามารถฝึกฝนจนชำนาญได้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำงานและได้เรียนรู้ถึงหลักการวิธีวินิจฉัยโรคที่ทันสมัย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทย ซึ่งจะเป็นผลโดยตรงต่อสังคมไทยโดยรวม
กลุ่มผู้เข้าฝึกอบรม
บุคลากรทางการแพทย์/สาธารณสุขทุกระดับ อาจารย์ นักวิชาการและผู้สนใจจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโรคมาลาเรียและลิชมาเนีย
- เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรียและลิชมาเนีย
- เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมรู้จักวิธีตรวจวินิจฉัยมาลาเรียที่ทันสมัย เช่น วิธี PCR วิธี Multiplex real-time PCR และวิธีการตรวจด้วย rapid diagnostic test kit
- เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในการตรวจนับเชื้อและรายงานผลตามมาตรฐานสากล
- เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้ร่วมวิชาชีพจากทั่วประเทศ
ระยะเวลา/กำหนดวันเวลา
วันที่ 17 – 18 กรกฎาคม 2568 ห้องปฏิบัติการประยงค์ ระดมยศ ชั้น 3 อาคารจำลอง หะริณสุต คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
หน่วยงานที่รับผิดชอบ
ภาควิชาพยาธิโปรโตซัว คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
โทร. 0-2306-9182, 0-2354-9100 ต่อ 1830
Facebook : Protozoaworkshop และ www.tm.mahidol.ac.th/protozoology
E-mail : hattaya.inc@mahidol.ac.th
" โปรดนำเสื้อกาวน์มีคะแนน CMTE จากสภาเทคนิคการแพทย์"
ดาวโหลดเอกสารเพิ่มเติม