
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรียและลิชมาเนียที่พบในตัวอย่างส่งตรวจ”
September 16, 2021
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรียและลิชมาเนียที่พบในตัวอย่างส่งตรวจ” วันที่ 28 – 29 กรกฎาคม 2559 และ วันที่ 4 – 5 สิงหาคม 2559)
September 16, 2021
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรียและลิชมาเนียที่พบในตัวอย่างส่งตรวจ”
September 16, 2021
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การตรวจวินิจฉัยเชื้อมาลาเรียและลิชมาเนียที่พบในตัวอย่างส่งตรวจ” วันที่ 28 – 29 กรกฎาคม 2559 และ วันที่ 4 – 5 สิงหาคม 2559)
September 16, 2021โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “มาตรฐานการเก็บตัวอย่าง ทักษะการตรวจวินิจฉัยและแนวโน้มการติดเชื้อพยาธิลำไส้ในปัจจุบัน” รุ่นที่ 1 วันที่ 17 - 18 มีนาคม 2559 รุ่นที่ 2 วันที่ 24 - 25 มีนาคม 2559
หลักการและเหตุผล
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่าพยาธิลำไส้ ทั้งเชื้อพยาธิโปรโตซัว และปรสิตหนอนพยาธิ มีความสำคัญทางการแพทย์และมีผลต่อสุขภาพของคนเรา โดยสามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆ ทั้งในบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันปกติ และมีอาการรุนแรงมากขึ้นในบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ตัวอย่างเช่นเชื้อพยาธิที่ฉวยโอกาสในกลุ่มผู้ป่วยเอดส์
ดังนั้นการตรวจวินิจฉัยและการจำแนกพยาธิลำไส้ ทั้งเชื้อพยาธิโปรโตซัว และปรสิตหนอนพยาธิทางห้องปฏิบัติการได้ถูกต้องและแม่นยำ จึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งเพราะจะทำให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเชื้อฉวยโอกาสซึ่งพบได้ไม่บ่อยในผู้ป่วยทั่วไป จึงจำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษในการตรวจวินิจฉัย ซึ่งความรู้เหล่านี้ยังไม่แพร่หลาย ดังนั้นบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องควรได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการตรวจหาเชื้อพยาธิเหล่านี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้วิธีการเก็บตัวอย่างที่ถูกต้องตามมาตรฐานก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญ ที่มีผลต่อการตรวจพบเชื้อพยาธิลำไส้เช่นกัน
การอบรมในครั้งนี้จะได้ทราบถึงแนวโน้มของการติดเชื้อดังกล่าวทั่วโลก ว่าจะเป็นอย่างไรในภาวะปัจจุบันและเรียนรู้วิธีที่ทันสมัย เช่น การย้อมสีพิเศษและวิธีทางอณูชีววิทยา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนไทย ซึ่งจะเป็นผลโดยตรงต่อสังคมไทยโดยรวม
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม
- ได้รับทราบแนวโน้มของการติดเชื้อพยาธิลำไส้ทั่วโลกในปัจจุบัน
- ทราบวิธีการมาตรฐานในการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจ
- ได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพยาธิลำไส้ทั้งเชื้อพยาธิโปรโตซัว และปรสิตหนอนพยาธิ ที่พบในผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์
- ทราบถึงวิธีการตรวจวินิจฉัยทั้งวิธีปกติและวิธีพิเศษเพื่อตรวจหาพยาธิลำไส้ชนิดต่างๆ ในห้องปฏิบัติการ
- ทราบถึงวิธีการวินิจฉัยพยาธิลำไส้โดยวิธีทางอณูชีววิทยา
- มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการตรวจหาพยาธิลำไส้ที่มีความสำคัญทางการแพทย์
- ได้ฝึกปฏิบัติจนเกิดความมั่นใจในการวินิจฉัยการติดเชื้อพยาธิที่พบบ่อยๆ ในลำไส้
ระยะเวลาและสถานที่
รุ่นที่ 1 วันที่ 17 – 18 มีนาคม พ.ศ. 2559 และรุ่นที่ 2 วันที่ 24 – 25 มีนาคม พ.ศ. 2559 ณ ห้องบรรยาย ชั้น 3 อาคารจำลอง หะริณสุต คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
กลุ่มผู้เข้าฝึกอบรม
ผู้เข้าร่วมอบรมเป็นผู้ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ นักวิชาการ บุคลากรทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผู้สนใจจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน


สาระสำคัญของการอบรม
ประกอบด้วยการบรรยายและปฏิบัติ ในหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้
- การบรรยายเรื่อง Global Trends of intestinal parasitic infection
- การบรรยายเรื่อง พยาธิลำไส้ที่ก่อให้เกิดโรคและฉวยโอกาสในคน
- การบรรยายเรื่อง วิธีการเก็บอุจจาระที่ถูกต้องและให้ได้มาตรฐาน
- การฝึกปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยพยาธิลำไส้ ด้วยวิธี Direct simple Smear
- การฝึกปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยพยาธิลำไส้ด้วยตนเองจาก Unknown samples
- การบรรยายเรื่อง Classical to update Techniques for diagnosis of intestinal protozoa
- การบรรยายเรื่อง การเตรียมและเก็บสไลด์กึ่งถาวร
- การบรรยายเรื่อง การตรวจวินิจฉัยพยาธิลำไส้ฉวยโอกาสด้วยวิธีย้อมพิเศษ (Special methods)
- การฝึกปฏิบัติการตรวจวินิจฉัย Opportunistic protozoa ด้วยวิธีย้อมพิเศษ
- การบรรยาย เรื่อง การตรวจหาพยาธิโปรโตซัวโดยวิธี PCR และ Real – time PCR
- การบรรยาย เรื่องการตรวจวินิจฉัยเชื้อโปรโตซัวในลำไส้ด้วยวิธีทางภูมิคุ้มกันวิทยา
- การบรรยาย เรื่องการตรวจวินิจฉัยเชื้อโปรโตซัวในลำไส้ด้วยวิธีทางภูมิคุ้มกันวิทยา
จำนวนผู้เข้ารับการอบรม
การฝึกอบรมประกอบด้วย ภาคบรรยาย การแสดงสาธิต และภาคปฏิบัติ รุ่นละประมาณ 40 คน จำนวน 2 รุ่น โดยเสียค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน คนละ 4,000 บาท
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ทำให้บุคลากรทางห้องปฏิบัติการ และผู้สนใจได้รับความรู้เกี่ยวกับพยาธิลำไส้ชนิดต่างๆ ที่พบได้ในผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโรคเอดส์ ทั้งในด้านรูปร่างลักษณะ วงจรชีวิต และการก่อให้เกิดโรค
- ทำให้บุคลากรทางห้องปฏิบัติการ และผู้สนใจได้รับความรู้พื้นฐานและหลักการในการตรวจวินิจฉัยพยาธิลำไส้โดยวิธีปกติและวิธีใหม่ เช่น การตรวจโดยวิธีทางอณูชีววิทยา
- ทำให้บุคลากรทางห้องปฏิบัติการ และผู้สนใจสามารถตรวจหาพยาธิลำไส้ชนิดต่างๆ ที่พบได้ในผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโรคเอดส์ ด้วยความถูกต้องและแม่นยำ
- เป็นการกระตุ้นให้บุคลากรทางห้องปฏิบัติการ มีความสนใจ และมองเห็นความสำคัญของพยาธิลำไส้ที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโรคเอดส์
- เป็นประโยชน์ต่อการเรียน การสอน การวิจัย และงานในห้องปฏิบัติการ โดยนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม
- เพื่อให้บุคลากรทางห้องปฏิบัติการได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้เพิ่มพูนความรู้เพื่อประโยชน์ต่อการตรวจวินิจฉัย
หน่วยงานที่รับผิดชอบ
ภาควิชาพยาธิโปรโตซัว คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล 420/6 ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร . 02-354-9100 -04 ต่อ1830 , 02-306-9182, 0 2-306-9183 โทรสาร 02- 643-5601,Facebook : Protozoaworkshop และ www.tm.mahidol.ac.th/protozoology
E-mail : hattaya.inc@mahidol.ac.th
ดาวโหลดเอกสารเพิ่มเติม