- สิ่งส่งตรวจที่เป็นเลือดและน้ำเหลือง
- สิ่งส่งตรวจโรค COVID-19
- สิ่งส่งตรวจโรค Monkeypox
- การติดป้ายชื่อผู้ป่วยบนหลอดเก็บเลือด ขอให้ปฏิบัติดังนี้
- ปิด sticker เป็นแนวตรง ไม่ม้วนเกลียวรอบหลอดเก็บเลือด
- เมื่อปิด sticker แล้วยังมองเห็นแถบสีที่บอกชนิดของหลอดเก็บเลือดและเว้นช่องว่างให้เห็นขีดบอกระดับ เลือดที่ต้องเจาะ และระดับเลือดที่ใส่ลงมาในหลอด
- ถ้า sticker ยาวเกินหลอดเก็บเลือด ให้ตัดส่วนที่เกินออกได้ โดยให้เหลือส่วนที่เป็น HN และ ชื่อ หรือจะพับ sticker ส่วนที่เกินเข้าหากันก็ได้
- การเจาะเลือดให้ปฏิบัติดังนี้
- ตรวจดูว่าป้ายชื่อผู้ป่วยที่ติดที่ใบขอตรวจและหลอดเก็บเลือดตรงกันหรือไม่
- ถามชื่อและนามสกุลผู้ป่วยทุกครั้งเมื่อจะเจาะเลือด
- ไม่ควรรัดแขนผู้ป่วยนานเกิน 1 นาที เนื่องจากอาจทำให้ค่าของการตรวจบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป ถ้าไม่เจาะโดยระบบสูญญากาศ ไม่ให้เปิดจุก ให้ใช้เข็มแทงผ่านจุกแล้วค่อยๆ ให้ระบบสูญญากาศดูดเลือดเข้าไปเอง ไม่ต้องดันลูกสูบกระบอกฉีดยา
- ในกรณีที่มีการส่งเลือดหลายหลอด ลำดับในการใส่เลือดลงหลอด ให้ปฏิบัติดังนี้
- Tube clotted blood mix โดยการ invert ขึ้นลง 5 ครั้ง
- Tube EDTA mix โดยการ invert ขึ้นลง 8 ครั้ง
- Tube heparin mix โดยการ invert ขึ้นลง 8 ครั้ง
- Tube citrate mix โดยการ invert ขึ้นลง 8 ครั้ง
- การปั่นแยกพลาสม่า หรือ serum ต้องทำการปั่นแยกภายใน 6 ชั่วโมงหลังการเจาะเลือด
- สำหรับผู้ขอรับบริการที่เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน, คนไข้จากโรงพยาบาลอื่น หน่วยงานวิจัยต่างๆ หรือ บริษัทเอกชน สามารถเก็บสิ่งส่งตรวจตามชนิดของหลอดเก็บเลือดตามตารางด้านล่างนี้
รายการ | ชนิดตัวอย่าง | ปริมาตร | การเก็บรักษา |
---|---|---|---|
– ตรวจหาซีโรไทป์ของเชื้อไวรัสไข้เลือดออกเด็งกี(dengue virus) ด้วยวิธี Real time RT-PCR test – การตรวจหาเชื้อ Zika, chikungunya และ Dengue virus ด้วยวิธี multiplex Real time RT-PCR |
EDTA blood, Clotted blood | ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เจาะเลือดอย่างน้อย 2 ml ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เจาะเลือดไม่ควรเกิน 1 ml | 2-8 °C เก็บได้ 6 ชั่วโมงหากมากกว่านั้นให้ปั่นแยก serum หรือ plasma แล้วเก็บไว้ที่ -20 °C ถึง -80 °C |
Plasma หรือ serum ปริมาตรต้องไม่ต่ำกว่า 0.5-1 ml ในหลอด microcentrifuge ปิดฝาให้สนิทและพันด้วย parafilm | -20 °C ถึง -80 °C | ||
ตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgM และ IgG ต่อเชื้อไวรัสไข้เลือดออกเด็งกี่ (dengue virus) ด้วย ELISA test | EDTA blood, Clotted blood, Citrate blood, Heparinized blood | ผู้ใหญ่และเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เจาะเลือดอย่างน้อย 2 ml ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เจาะเลือดไม่ควรเกิน 1 ml | 2-8 °C เก็บได้ 24 ชั่วโมงหากมากกว่านั้นให้ปั่นแยก serum หรือ plasma แล้วเก็บไว้ที่ -20 °C ถึง -80 °C |
Plasma หรือ serum ปริมาตรต้องไม่ต่ำกว่า 0.5-1 ml ในหลอด microcentrifuge ปิดฝาให้สนิทและพันด้วย parafilm | -20 °C ถึง -80 °C | ||
ตรวจหาเชื้อไวรัส Chikungunya ด้วยวิธี Real time RT-PCR test | EDTA blood | EDTA Plasma ปริมาตร 2 mL หรือ EDTA Blood ปริมาตร 5 mL | 2-8 °C เก็บได้ 24 ชั่วโมงหากมากกว่านั้นให้ปั่นแยก plasma แล้วเก็บไว้ที่ -20 °C ถึง -80 °C |
ตรวจหาเชื้อไวรัส Zika virus ด้วยวิธี Real time RT-PCR test | Urine | Urine เก็บ 2 mL | 2-8 °C เก็บได้ 24 ชั่วโมงหากมากกว่านั้นให้ปั่นแยก plasma แล้วเก็บไว้ที่ -20 °C ถึง -80 °C |
การตรวจหาเชื้อ SAR-CoV-2 ด้วยวิธี Real time RT-PCR
เพื่อให้การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการมีความถูกต้องและแม่นยำ ผู้เก็บสิ่งส่งตรวจควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- ก่อนเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วย ควรเตรียมวัสดุที่จะใช้ให้พร้อมรวมถึงหลอดเก็บตัวอย่าง รายละเอียดของผู้ป่วย เช่น ชื่อผู้ป่วย ชนิดตัวอย่าง วันเดือนปีบนฉลากข้างหลอดและปิดทับสลากด้วยวัสดุกันน้ำ และสวมใส่ PPE ให้เหมาะสม
- เก็บตัวอย่างเร็วที่สุด เมื่อผู้ป่วยเริ่มปรากฎอาการของโรค อย่างช้าภายใน 3-5 วัน
- ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ปอดบวม ปอดอักเสบ ควรเก็บตัวอย่างจากระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น bronchoalveolar และ tracheal aspirate เก็บปริมาตรอย่างน้อย 2-3 mL, sputum เก็บปริมาตรอย่างน้อย 0.5-1 mL ใส่ภาชนะปลอดเชื้อไม่ต้องใส่ UTM/VTM ยกเว้นกรณีผู้ป่วยใส่ tube ให้ตัดสาย ET-tube จุ่มลงในหลอด UTM/VTM และควรเก็บตัวอย่างจากทางเดินหายใจส่วนบนควบคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสการพบเชื้อจากการเก็บตัวอย่างหลายระบบ
- ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ให้เก็บตัวอย่าง เช่น nasopharyngeal aspirate, nasopharyngeal wash, nasopharyngeal swab, throat swab
- ผู้ป่วยที่เก็บตัวอย่างเป็น swab ควรเก็บ nasopharyngeal swab ร่วมกับ throat swab ใส่ใน UTM/VTM ในหลอดเดียวกันเพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อไวรัส (ใช้ Dacron หรือ Rayon swab ที่ก้านทำด้วยลวดหรือพลาสติก และไม่มีสาร calcium alginate) เมื่อป้ายเสร็จให้จุ่มลงในหลอด UTM/VTM ปริมาตร 1 หรือ 2 mL แล้วหักหรือตัดปลายด้าม swab ทิ้งเพื่อปิดหลอดตัวอย่างได้สนิท
- บรรจุตัวอย่างในหลอดที่ป้องกันการรั่วไหล (Leak proof) เมื่อเก็บตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว ปิดฝาหลอดหรือภาชนะเก็บตัวอย่างให้สนิทพันด้วย เทป แล้วถอดถุงมือชั้นนอกสุด เปลี่ยนสวมถุงมือคู่ใหม่เพื่อลดการปนเปื้อน ภายนอกหลอดวัตถุตัวอย่างให้เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ 0.1 % โซดียมไฮโปคลอไรต์
- เมื่อเก็บตัวอย่างแล้วต้องแช่ในกระติกน้ำแข็งทันทีหรือเก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 2-8 °C แล้วส่งห้องปฏิบัติการภายใน 24 ชั่วโมง กรณีที่ไม่สามารถส่งตรวจภายใน 24 ชั่วโมง ให้เก็บในตู้แช่ที่อุณหภูมิตั้งแต่ -70 °C ขึ้นไป
การบรรจุวัตถุตัวอย่างเพื่อส่งห้องปฏิบัติการ
- พันรอบหลอดวัตถุตัวอย่างด้วยวัสดุดูดซับของเหลว โดยวัสดุดูดซับของเหลวที่ใช้ต้องเพียงพอที่จะสามารถดูดซับของเหลวจากภาชนะทั้งหมดได้ในกรณีที่ภาชนะชั้นในแตกหักหรือรั่ว
- ใส่ถุงซิปชั้นที่ 1 แล้วทำความสะอาดภายนอกด้วย 70 % แอลกอฮอล์ สวมถุงมือคู่ใหม่ สวมถุงซิปชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 ทำความสะอาดถุงซิปอีกครั้งด้วย 70 % แอลกอฮอล์
- นำหลอดวัตถุตัวอย่างในถุงพลาสติกซิป 3 ชั้นใส่ลงในกระป๋องพลาสติกที่แข็งแรง (ภาชนะชั้นที่ 2) ป้องกันการรั่วไหลได้ดี มีฝาปิดสนิทไม่รั่วซึม สามารถทนแรงกระแทกได้ และฉีดพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อภายนอกกระป๋อง
- นำกระป๋องใส่ลงในกล่องโฟม (ภาชนะชั้นที่ 3) ที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนต่อการกระแทก นำ ice pack ใส่ลงไปในช่องว่างระหว่างกล่องโฟม (ภาชนะชั้นที่ 3) และกระป๋อง (ภาชนะชั้นที่ 2) ให้เพียงพอ เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้ได้ระหว่าง 2-8 °C ตลอดการขนส่ง พันเทปกาวที่ฝากล่องโฟมให้เรียบร้อย ฉีดพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อภายนอกกล่องโฟม
- ด้านนอกกล่องโฟม (ภาชนะชั้นที่ 3) ให้แสดงรายละเอียดได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ผู้รับ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของผู้ควบคุมการขนส่ง ชื่อผู้ส่ง หมายเลขโทรศัพท์ผู้ส่ง ติดตราสัญลักษณ์สารชีวภาพอันตราย สัญลักษณ์ลูกศรแสดงทิศทางการวางบรรจุภัณฑ์
- ถอดชุด PPE ทิ้งในถังขยะติดเชื้อแล้วนำไปทำลายหรือฆ่าเชื้อ
การตรวจหาเชื้อ Monkeypox virus ด้วยวิธี Real time PCR
เพื่อให้การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการมีความถูกต้องและแม่นยำ ผู้เก็บสิ่งส่งตรวจควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
- ก่อนเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วย ควรเตรียมวัสดุที่จะใช้ให้พร้อมรวมถึงหลอดเก็บตัวอย่าง รายละเอียดของผู้ป่วย เช่น ชื่อผู้ป่วย ชนิดตัวอย่าง วันเดือนปีบนฉลากข้างหลอดและปิดทับสลากด้วยวัสดุกันน้ำ และสวมใส่ PPE ให้เหมาะสม
- เก็บตัวอย่างให้เร็วที่สุดเมื่อผู้ป่วยเริ่มปรากฎอาการของโรค อย่างช้าภายใน 3-5 วัน
- หากเก็บตัวอย่างด้วยวิธี Vesicular swabs และ Pustular fluid ต้องทำความสะอาดตุ่มแผลด้วย 70% แอลกอฮอล์ ใช้ disposable syringe พร้อมเข็มเจาะ แล้วดูดน้ำในตุ่มแผลเก็บใส่หลอดไร้เชื้อ 0.5-1 mL ปิดฝาเก็บในกระติกน้ำแข็ง (4°C) ทันที
- หาก Swab จากแผล ให้ทำความสะอาดตุ่มแผลด้วย 70% แอลกอฮอล์ ใช้กรรไกรตัดผิวหนังที่คลุมตุ่มแผล จากนั้นใช้แลนเซ็ตปราศจากเชื้อขูดแผลจนกระทั่งผิวชื้นแต่เลือดยังไม่ออกแล้วใช้ไม้พันสำลีปราศจากเชื้อป้ายที่แผล แล้วรีบแช่ Swab ลงในหลอด VTM เก็บในกระติกน้ำแข็ง (4°C) ทันที
- บรรจุตัวอย่างในหลอดที่ป้องกันการรั่วไหล (Leak proof) เมื่อเก็บตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว ปิดฝาหลอดหรือภาชนะเก็บตัวอย่างให้สนิทพันด้วยเทปแล้วถอดถุงมือชั้นนอกสุด เปลี่ยนสวมถุงมือคู่ใหม่เพื่อลดการปนเปื้อน ภายนอกหลอดวัตถุตัวอย่างให้เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ 0.1 % โซเดียมไฮโปคลอไรต์
- เมื่อเก็บตัวอย่างแล้วต้องแช่ในกระติกน้ำแข็งทันทีหรือเก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 2-8 °C แล้วส่งห้องปฏิบัติการภายใน 24 ชั่วโมง กรณีที่ไม่สามารถส่งตรวจภายใน 24 ชั่วโมง ให้เก็บในตู้แช่ที่อุณหภูมิตั้งแต่ -70 °C ขึ้นไป
การบรรจุวัตถุตัวอย่างเพื่อส่งห้องปฏิบัติการ
- พันรอบหลอดวัตถุตัวอย่างด้วยวัสดุดูดซับของเหลว โดยวัสดุดูดซับของเหลวที่ใช้ต้องเพียงพอที่จะสามารถดูดซับของเหลวจากภาชนะทั้งหมดได้ในกรณีที่ภาชนะชั้นในแตกหักหรือรั่ว
- ใส่ถุงซิปชั้นที่ 1 แล้วทำความสะอาดภายนอกด้วย 70 % แอลกอฮอล์ สวมถุงมือคู่ใหม่ สวมถุงซิปชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 ทำความสะอาดถุงซิปอีกครั้งด้วย 70 % แอลกอฮอล์
- นำหลอดวัตถุตัวอย่างในถุงพลาสติกซิป 3 ชั้น ใส่ลงในกระป๋องพลาสติกที่แข็งแรง (ภาชนะชั้นที่ 2) ป้องกันการรั่วไหลได้ดี มีฝาปิดสนิทไม่รั่วซึม สามารถทนแรงกระแทกได้ และฉีดพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อภายนอกกระป๋อง
- นำกระป๋องใส่ลงในกล่องโฟม (ภาชนะชั้นที่ 3) ที่มีคุณสมบัติแข็งแรงทนต่อการกระแทก นำ ice pack ใส่ลงไปในช่องว่างระหว่างกล่องโฟม (ภาชนะชั้นที่ 3) และกระป๋อง (ภาชนะชั้นที่ 2) ให้เพียงพอ เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้ได้ระหว่าง 2-8 °C ตลอดการขนส่ง พันเทปกาวที่ฝากล่องโฟมให้เรียบร้อย ฉีดพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อภายนอกกล่องโฟม
- ด้านนอกกล่องโฟม (ภาชนะชั้นที่ 3) ให้แสดงรายละเอียดได้แก่ ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ผู้รับ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของผู้ควบคุมการขนส่ง ชื่อผู้ส่ง หมายเลขโทรศัพท์ผู้ส่ง ติดตราสัญลักษณ์สารชีวภาพอันตราย สัญลักษณ์ลูกศรแสดงทิศทางการวางบรรจุภัณฑ์
- ถอดชุด PPE ทิ้งในถังขยะติดเชื้อแล้วนำไปทำลายหรือฆ่าเชื้อ