TropMed-Virtual-Game-Banner
messageImage_1715422798544

เกมโรคเขตร้อน

คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในโครงการห้องปฏิบัติการเสมือนจริงโรคเขตร้อน (Trop Med Virtual Laboratory) ในการสร้างบทเรียนในรูปแบบ Game-based learning สำหรับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้เข้าถึงและเรียนรู้โรคเขตร้อนที่สำคัญ 3 โรค รวมถึงรู้จักการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่เป็นพื้นฐานช่วยในการตรวจวินิจฉัยและประเมินความรุนแรงของโรค

admin-ajax
messageImage_1715422798544

Main Contents

โรคติดเชื้อเขตร้อน

Malaria

มาลาเรีย

Malaria

Dengue

ไข้เลือดออกเด็งกี่

Dengue Haemorrhagic Fever

Leptospirosis

ไข้ฉี่หนู

Leptospirosis

มาลาเรีย: โรคที่มาพร้อมกับยุง

ในบทเรียนนี้ เราจะเริ่มด้วยการทำความเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมของป่า ป่าเป็นที่อยู่อาศัยของยุงก้นปล่องที่เป็นพาหะที่นำโรคมาลาเรีย พื้นที่ที่มีป่าหนาแน่นและภูเขาที่มีแหล่งน้ำ เช่น ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งที่พบยุงก้นปล่องได้ง่าย ที่นี่มักจะมีน้ำขังหรือน้ำไหลช้า ๆ/เอื่อย ๆ ทำให้มีความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับยุงในการวางไข่

สถานการณ์โรคมาลาเรียในไทย

การระบาดลดลง แต่โรคมาลาเรียก็ยังมีการตรวจพบในบางพื้นที่ของประเทศ จังหวัดที่มีรายงานโรคนี้ ได้แก่ ตาก ส่วนพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ มีอัตราการระบาดของโรคมาลาเรียที่สูง

ปัจจัยที่มีผลต่อการระบาด

ปัจจัยที่มีผลต่อการระบาด เช่น การเคลื่อนย้ายของคนแรงงานข้ามชาติและการเดินทางในพื้นที่ชายแดน

การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม:

การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เช่น การตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งส่งผลต่อการลดของแหล่งน้ำที่เป็นที่อยู่อาศัยของยุงก้นปล่อง

ความต้านทานของยุงต่อสารเคมี: การพัฒนาตัวเองของยุงก้นปล่องในการต้านทานสารเคมีป้องกันยุง/ยาฆ่ายุง

โรคไข้เลือดออก

เป็นโรคที่มีการแพร่กระจายโดยยุงลาย ซึ่งมักพบในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิที่ เหมาะสมสำหรับ การเจริญพันธุ์ของยุง ในเมืองมีแหล่งน้ำที่เป็นจุดเพาะพันธุ์ของยุงลายมากมาย เช่น น้ำขังใน ท่อระบายน้ำ แหล่งน้ำที่ไม่ถูกจัดการอย่างเหมาะสม และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเพิ่มจำนวนของยุง นอกจากนี้ การขยายตัวของเมืองและการเคลื่อนย้ายของประชากรยังทำให้ การแพร่กระจายของโรคมีมากขึ้น

ระบาดวิทยา

การระบาดในเมือง: เนื่องจากเมืองมีแหล่งน้ำขังมากมายและความหนาแน่นของประชากรสูง ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเพิ่มประชากรของยุงลายและการแพร่กระจายของโรค

ฤดูกาลและการระบาด: ในประเทศไทย โรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มระบาดสูงในช่วงฤดูฝน (ประมาณเดือน พฤษภาคม – ตุลาคม) เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นและมีน้ำขังซึ่งเอื้ออำนวยต่อการเจริญพันธุ์ของยุง

กลุ่มเสี่ยง: แม้ว่าไข้เลือดออกสามารถกระทบต่อทุกกลุ่มอายุ แต่เด็ก ๆ มักเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองที่มีความหนาแน่นประชากรสูง

โรคไข้ฉี่หนู หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Leptospirosis’ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกลุ่มของ Leptospira โรคนี้สามารถพบได้ทั่วไปในทุ่งนาเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของแบคทีเรียนี้ โดยเฉพาะในน้ำที่หยุดนิ่งหรือน้ำที่มีการปนเปื้อน

การติดเชื้อมักเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำหรือดินที่มีการปนเปื้อนเชื้อจากปัสสาวะของสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น หนู วัว หมู และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ซึ่งในทุ่งนาที่มีการเกษตรกรรมและสัตว์เลี้ยง ทำให้เป็นพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้ฉี่หนู

โรคนี้อาจก่อให้เกิดอาการต่างๆ ตั้งแต่อาการเล็กน้อยเช่น ปวดหัว ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ไปจนถึงอาการรุนแรงอย่างไตวายและปัญหาต่อระบบประสาท จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเข้าใจและรู้วิธีการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ

ในบทเรียนนี้ เราจะทำความเข้าใจว่าทำไมโรคนี้ถึงพบบ่อยในทุ่งนา และเราจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันตัวเองและชุมชนของเราจากโรคนี้ ทุกท่านพร้อมหรือยังที่จะเรียนรู้และรับมือกับโรคไข้ฉี่หนูอย่างมีประสิทธิภาพ?

ระบาดวิทยา

ความชุกของโรคไข้ฉี่หนูในประเทศไทยแตกต่างกันไปตามพื้นที่และฤดูกาล โดยทั่วไปโรคนี้มักพบได้บ่อยในพื้นที่ที่มีการเกษตรกรรมและมีน้ำขัง เช่น ในทุ่งนา ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับแบคทีเรีย

การระบาดของโรคมักเกิดขึ้นหลังฤดูฝน เนื่องจากมีการสะสมของน้ำและปัสสาวะของสัตว์ติดเชื้อ เช่น หนูที่มีการปนเปื้อนในน้ำ กลุ่มอาชีพที่เสี่ยง เช่น เกษตรกร ชาวประมง และผู้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำขังมักได้รับผลกระทบมากที่สุด

ภาคเหนือ: มีภูเขาและพื้นที่การเกษตรหลากหลาย รวมถึงมีฤดูฝนที่ชัดเจน อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้ฉี่หนู โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีน้ำขังหลังฤดูฝน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เป็นภาคที่มีการเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะการทำนาข้าว ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการแพร่กระจายของโรคไข้ฉี่หนู

ภาคกลาง: แม้ว่าภาคกลางจะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและมีการพัฒนาสูง แต่ในพื้นที่การเกษตรและชุมชนริมน้ำ หรือการมีน้ำท่วมขังหลังฝนตก ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรค

ภาคตะวันตก: พื้นที่ที่มีป่าธรรมชาติและภูเขา อาจมีความเสี่ยงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในชุมชนที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือมีกิจกรรมทางน้ำ

ภาคตะวันออก: มีทั้งพื้นที่การเกษตรและอุตสาหกรรม ความชุกของโรคอาจแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและกิจกรรมของคนในพื้นที่

ภาคใต้: มีสภาพอากาศที่ชื้นและพื้นที่ชายฝั่ง ความชุกของโรคไข้ฉี่หนูอาจสูงขึ้นในชุมชนชายฝั่งที่มีกิจกรรมทางน้ำ

demo-attachment-78-Group-362
Address:
พัฒนาคุณภาพ
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์
ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี
คณะเวชศาสตร์เขตร้อน
420/6 ถนนราชวิถี, เขตราชเทวี, กรุงเทพฯ 10400
Phone:
โทรศัพท์: 0-2306-9121
ภายใน : 1303, 1361
Office Hours:
8.30 น. - 16.30 น.